วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

รายชื่อสมาชิกใหม่ในห้อง C

รายชื่อสมาชิก
อาจารย์ ธภัทร ชัยชูโชค อาจารย์ปาล์ม
1.นายเปรมศักดิ์ สารานพกุล  เปรม
2.นางสาวอังคณา เสน่หา เดียร์ 
3.นายชิษณุพงศ์ บุญพา น้ำ
4.นายธนัญชย์ ศิริชัย ปืน
5.นางสาวอรอุมา แสงแก้ว ปลา 
6.นางสาวเจนจิรา นวลแก้ว ก้อย
7.นายภานุวัตร จันสองแก้ว โอ๊ต
8.นาย ธนทัศน์ บุญณารักษ์ เชน 
9.นาย ครองชัย ศรีทวีป อ๊อฟ
10.นาย มงคล คังฆะมณี พืช 
11. น.ส.โซเฟีย หวังจิ โซเฟีย
12.นางสาวนันทนา แก้วมรกต แอม
13.นางสาว ทิพย์สุดา เมฆม่วงแก้ว เฟิร์น 
14.นายกฤษณศักดิ์ อมแก้ว ปลั๊ก
15.นาย ตวงสิทธิ์ กำเนิดทอง ปอน 
16.นาย สหรัฐ ภัทชวงค์ ฟิวส์ 
17.นางสาว สาวิตรี ไชยทอง บัว
18.นาย ณัฐวุฒิ วรรณสวัสดิ์ แน็ก 
19.นายบัณฑิต จิตรพัฒนากุล จ๊อง
20. นางสาวยุพิน แก้วดำ หญิง
21.นาย กษิดินทร์ ทิพยศุภลักษณ์ ดิน
22.นางสาวสุดารัตน์ เพชรแท้ อิ๋ว 
23.นางสาว นภัสวรรณ ย่องตีบ น้ำ
24.นางสาวรวิกร พุทธนุกูล ป็อบ
25.ธัญวัฒน์ รักษ์เพ็ชร หลวงพี่ปลา
26.นาย ธนทัศน์ บูญณารักษ์ เชน 
27.นางสาวพิภาษิณี สัญศรีเมือง น้องเฟียร์
28.นางสาวนางสาวสุพัตรา อวนข้อง ตั๊ก
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น

เทคโนโลยีการสื่อสาร


                              WiFi


Wi-Fi หรือ Wireless หมายถึง เครือข่ายไร้สาย มักใช้กับระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในองค์กรหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ระบบเครือข่ายไร้สาย ( Wireless LAN : WLAN ) หมายถึงเทคโนโลยีที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ 2เครื่อง หรือกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้ รวมถึงการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน โดยปราศจากการใช้สายสัญญาณในการเชื่อมต่อ แต่จะใช้คลื่นวิทยุเป็นช่องทางการสื่อสารแทน การรับส่งข้อมูลระหว่างกันจะผ่านอากาศ ทำให้ไม่ต้องเดินสายสัญญาณ และติดตั้งใช้งานได้สะดวกขึ้น ระบบเครือข่ายไร้สายใช้แม่เหล็กไฟฟ้าผ่านอากาศ เพื่อรับส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์เครือข่าย โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้อาจเป็นคลื่นวิทยุ (Radio) หรืออินฟาเรด (Infrared) ก็ได้

               การสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สายมีมาตราฐาน IEEE802.11 เป็นมาตราฐานกำหนดรูปแบบการสื่อสาร ซึ่งมาตราฐานแต่ละตัวจะบอกถึงความเร็วและคลื่นความถี่สัญญาณที่แตกต่างกันในการสื่อสารข้อมูล เช่น 802.11b และ 802.11g ที่ความเร็ว 11 Mbps และ 54 Mbps ตามลำดับ และขอบเขตของสัญญาณคลอบคลุมพื้นที่ประมาณ 100 เมตรในพื้นที่โล่งและประมาณ 30 เมตรในอาคาร ซึ่งระยะทางของสัญญาณมีผลกระทบจากสิ่งรอบข้างหลายๆ อย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือ ความหนาของกำแพง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่างๆ รวมถึงร่างกายมนุษย์ด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อการใช้งานเครือข่ายไร้สายทั้งสิ้น
การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายมี 2 รูปแบบ คือแบบ Ad-Hoc และ Infrastructure การใช้งานเครือข่ายไร้สายของผู้ใช้บริการทั่วไปจะเป็นแบบ Infrastructure คือมีอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) ของผู้ให้บริการเป็นผู้ติดตั้งและกระจายสัญญาณ ให้ผู้ใช้ทำการเชื่อมต่อ โดยผู้ใช้บริการจะต้องมีอุปกรณ์รับส่งสัญญาณเรียกว่า "การ์ดแลนไร้สาย" หรือชนิดใหม่จะทำมาเป็นชนิด USB เรียกว่า Wireless USB ( รูปร่างเหมือน ThumDrive ) เป็นอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ไป Access Point ของผู้ให้บริการ

               สรุปก็คือ การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่ระบบเครือข่าย เหมือนกับระบบแลน ( LAN ) ที่ใช้สายปกติ แตกต่างที่อุปกรณ์ทางกายภาพในการเชื่อมต่อเครือข่ายไม่ต้องใช้สายสัญญาณแต่อย่างใด โดยการใช้งานเครือข่ายไร้สายสามารถใช้บริการต่างๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้เหมือนเครือข่ายมีสายได้ปกติ เว้นแต่ว่าผู้ดูแลระบบเครือข่ายนั้นๆ จะปิดบริการบางบริการเพื่อความปลอดภัยของเครือข่ายได้เช่นกัน ซึ่งการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายช่วยให้การเชื่อมต่อง่ายขึ้น ประหยัดค่าสายสัญญาณและใช้งานได้ทุกที่ ที่มีสัญญาณเครือข่ายไร้สายไปถึง
ลักษณะการเชื่อมต่อของอุปกรณ์
               Wi-Fi ได้กำหนดลักษณะการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ภายในเครือข่าย WLAN ไว้ 2 ลักษณะคือโหมด Infrastructure และโหมด Ad-Hoc หรือ Peer-to-Peer
โหมด Infrastructure
               โดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์ในเครือข่าย Wi-Fi จะเชื่อมต่อกันในลักษณะของโหมด Infrastructure ซึ่งเป็นโหมดที่อนุญาตให้อุปกรณ์ภายใน WLAN สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้ ในโหมด Infrastructure นี้จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ 2 ประเภทได้แก่ สถานีผู้ใช้ ( Client Station ) ซึ่งก็คืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ( Desktop, Laptop, หรือ PDA ต่างๆ ) ที่มีอุปกรณ์ Client Adapter เพื่อใช้รับส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi และสถานีแม่ข่าย ( Access Point ) ซึ่งทำหน้าที่ต่อเชื่อมสถานีผู้ใช้เข้ากับเครือข่ายอื่น ( ซึ่งโดยปกติจะเป็นเครือข่าย IEEE 802.3 Ethernet LAN ) การทำงานในโหมด Infrastructure มีพื้นฐานมาจากระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กล่าวคือสถานีผู้ใช้จะสามารถรับส่งข้อมูลโดยตรงกับสถานีแม่ข่ายที่ให้บริการ แก่สถานีผู้ใช้นั้นอยู่เท่านั้น ส่วนสถานีแม่ข่ายจะทำหน้าที่ส่งต่อ ( forward ) ข้อมูลที่ได้รับจากสถานีผู้ใช้ไปยังจุดหมายปลายทางหรือส่งต่อข้อมูลที่ได้ รับจากเครือข่ายอื่นมายังสถานีผู้ใช้
โหมด Ad-Hoc หรือ Peer-to-Peer
               เครือข่าย Wi-Fi ในโหมด Ad-Hoc หรือ Peer-to-Peer เป็นเครือข่ายที่ปิดคือไม่มีสถานีแม่ข่ายและไม่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่น บริเวณของเครือข่าย Wi-Fi ในโหมด Ad-Hoc จะถูกเรียกว่า Independent Basic Service Set ( IBSS ) ซึ่งสถานีผู้ใช้หนึ่งสามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลกับสถานีผู้ใช้อื่นๆในเขต IBSS เดียวกันได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านสถานีแม่ข่าย แต่สถานีผู้ใช้จะไม่สามารถรับส่งข้อมูลกับเครือข่ายอื่นๆได้
ข้อดี  WiFi
1.ราคาที่ ลงทุน ต่ำที่สุด สำหรับ การให้บริการ ทุกระบบ เมื่อเทียบกัน ต่อ จำนวนห้องผู้ใช้บริการ,สะดวกในการติดตั้ง
2.ไม่ต้อง เจาะอาคาร ผนัง หรือ เดินสาย LAN เป็น จำนวนมาก
3.ความเร็ว ของอุปกรณ์ ( 54 Mbps ) มากกว่า อินเตอร์เนต 1 Mbps ถึง 54 เท่า ทำให้ network ภายใน สามารถ รองรับ เทคโนโลยี ใน อนาคต ได้ หาก ความเร็วอินเตอร์เนตจากผู้ให้บริการ เพิ่มขึ้นเป็น 8 Mbps หรือ 24 Mbpsและ
4.เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก อุปกรณ์ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และ ปัจจุบัน
5.เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใน notebook สำหรับ โน้ตบุ๊ค ทั้ง แบบพีซี ที่ใช้เทคโนโลยี ของอินเทล และ เครื่องโน้ตบุ๊ค แอปเปิล ติดมากับเครื่องอยู่แล้ว ซึ่งมีการ์ด WiFi เป็น อุปกรณ์ มาตรฐาน (Mobile technology)


 ข้อเสีย WiFi
1. การถูกลักลอบใช้ Wi-Fi 
2.  การโจรกรรมข้อมูลด้วยเทคนิค Evil Twin
3. การควบคุม MAC Address ของผู้ใช้
4.  ควบคุมการแพร่กระจายของสัญญาณ
5. ปิดการเชื่อมต่อกับเครือข่าย WLAN แบบอัตโนมัติ